แต่พอเดินทางจริงๆ มีเหตุให้ต้องเหลือเป็น “เดินทางคนเดียว”
แถมไม่ได้มาเที่ยวอย่างที่แพลนไว้ด้วยแน่ะ
กลายเป็นทริปเพื่อธุรกิจไปเต็มๆ ทำให้ต้องไปและกลับคนละทาง ..
ปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางกันฉุกละหุก … งานงอก ซื้อตั๋วเพิ่มนิดหน่อย
เพื่อความสมเหตุสมผลและความสบายกระเป๋า(ตังส์)มากกว่า !!
จาก ..
– นั่งรถไฟความเร็วสูงจากกวางโจว เข้าไปฮ่องกง (CHR : Guangzhou to Hung Hom)
– แล้วนอนฮ่องกงอีกคืน เพื่อรอบินกลับมากรุงเทพ
กลายเป็น ..
ไม่เป็นไรอย่าได้แคร์
เพราะวันนี้ที่จะกลับ เพิ่งให้เอเจนซี่จีนซื้อตั๋วให้ก่อนบินแค่ 3-4 ชม.เอง ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
โทรบอกให้ซื้อตั๋วตอน 11 โมง บินจริง 17.55น.
นั่นแปลว่าช้าสุด 4 โมงเย็นต้องถึงสนามบินแล้วนะเอ่อ กรี๊ดดด !!!
ไม่เป็นไรในขณะที่วุ่นวายแพ็คของทั้งหมดทั้งมวลที่บ้าระห่ำซื้อมา เพื่อจะเอาไปส่งที่โกดังเพื่อส่งของมาเมืองไทยอีกที .. ไกด์ก็เข้ามาแล้วช่วยแพ็คเป็นอย่างดี
แพ็คไปก็บ่นไปว่าซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้ แล้วยังเหลืออีกตั้งเยอะจะขนกลับเองไม่ใช้บริการขนส่งอีก บลาๆๆๆ … พอแพ็คเสร็จก็เอาของทั้งหมดไปส่งโกดัง
แต่ตึกนี้อยู่ใกล้ๆที่เราต้องมารอขึ้นรถไปสนามบินตอนบ่ายสาม เลยแวะมาหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยก็เดินกลับมารอรถที่โรงแรม แหะๆ
เดินเสร็จก็มานั่งหาอะไรกินที่ร้าน McDonald ใตึกนั่่นล่ะจ่ะ คนเยอะมากๆ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้น ..
ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะ เราว่า Mc ที่นี่อร่อยกว่าบ้านเราเยอะมากๆๆ ขนมปังนุ่ม ไก่อร่อย packaging ดูดีมีคุณภาพ
กินเสร็จอะไรเสร็จก็เดินกลับมาโรงแรม
ซักพักรถก็มาจอดรับเราที่หน้าโรงแรม พนักงานบริการดีช่วยยกกระเป๋าให้ซะตัวเอียงเลย เราบอกเดี๋ยวเราช่วยถือด้วยก็ไม่ยอม ..
นั่งรถจากในเมืองกวางโจวออกมาสนามบิน ใช้เวลาเกือบๆชั่่วโมงได้
แอบไกลอยู่เหมือนกัน ..
รถมาส่งถึงสนามบิน ก็รีบไปจัดการดูบอร์ดเช็คอินเลย เพราะเวลากระชั้นมากๆ
พอได้ช่องเช็คอินเสร็จสรรพก็เดินหากันล่ะซิ ..
… แล้วด้วยความที่ภายในสนามบินไบหยุนของกวางโจวไม่ได้กว้างใหญ่แบบโล่งๆ เค้าเลยออกแบบช่องเช็คอินแยกโซนตามตัวอักษร วางเป็นโซนสับหว่างเหลื่อมๆกัน เพื่อให้ได้จำนวนช่องเช็คอินที่เยอะที่สุด แต่ไม่ได้เรียงกันเป็นแถวแบนๆยาวๆอย่างบ้านเรานะ
วันนี้เครื่องจอดที่เกท A105 ..
เกทนี้อยู่ช่องสุดท้ายของสนามบินฝั่งขวาเลยทีเดียว เดินกันขาลาก.. แล้วระหว่างทางเดินไปที่เกทแอบแวะร้านขายของที่ระลึกตามหาแม่เหล็กแปะตู้เย็น… ไม่มีเลย เสียใจ T_T
ออกไปแอบดูที่กระจก เครื่องบินมารอเราล่ะน๊าา
เห็นปลายหางนั้นมั๊ย พริ้วสวยงาม ^_^
ไฟล์ UL883 สายการบิน SriLankan Airlines
เส้นทางการบิน : กวางโจว-กรุงเทพ, (กรุงเทพ-โคลอมโบ)
ใช้เครื่องบิน A340-300 (343)
ใช้เวลาบินจาก CAN-BKK : 3.15 นาที
มีพิสัยการบินจากกวางโจวมากรุงเทพที่ 3,981 กม.
แต่ … มีจอทุกที่นั่ง แต่ใช้ไม่ได้ทุกที่นั่งน๊าา อุอุ
ในเครื่องมีหน้าต่างเล็กๆ (เล็กจริงๆนะ) ให้ได้พอมองเห็นวิวข้างนอกนิดนุ่ง
เบาะกว้างๆ กับขาสั้นๆ 555
ขึ้นเครื่องมาปุ๊บ คุณแอร์ก็แจกผ้าห่มปั๊บ
แล้วก็ตามด้วยเมนูอาหารที่จะเสริฟบนเครื่อง
ในเมนูจะแบ่งเป็นเมนูของแต่ละช่วงการเดินทางด้วยนะเนี๊ย
ของเรากวางโจว-กรุงเทพ เมนคร์อสจะมีบะหมี่ปลาราดซอสเต้าเจี๊ยวหวาน กับข้าวหน้าไก่ย่างผัดซอสขิงให้เลือก
เราเลือกบะหมี่ปลาอ่ะ แปลกดี ..แต่อร่อยดีนะ
ปกติเคยกินแต่บะหมี่ไก่ อ่าๆๆๆ
อาหารจะมาเสริฟเป็นถาดตามปกติ ในถาดจะมีเมนคร์อสเสริฟพร้อมยำส้มโอใส่กุ้ง ของหวานเป็นเค้กช็อคโกแลตมะพร้าวอ่อนราดน้ำเสวรสตัดหวาน อร่อยดี
กินอะไรเสร็จสรรพคุณแอร์ก็เสริฟ Coffee or Tea ตามปกติ
.. ว่าแล้วก็รับ Tea มาล้างปากแล้วนอนซะ
พอคุณแอร์เก็บอะไรเรียบร้อย ก็หรี่ไฟในเคบินให้ผู้โดยสารพักผ่อน
.. เราก็ว่าง่ายหลับยาวเลย
ตื่นมาอีกทีเครื่องบินก็ลดระดับลงจนใกล้จะแลนด์ เห็นเป็นภาพนี้แล้ว
สามชม.ไวเหมือนโกหกจริงๆ ^^
พอเครื่องจอดที่หลุมเรียบร้อย ประตูเปิด ความโกลาหลก็บังเกิด ผู้โดยลุกไปยืนออกันตรงทางเดินเพียบๆ เหมือนในภาพรวมทั้งเราด้วย แหะๆ
แถมพอออกจากเครื่องมาแล้ว.. ระหว่างงวงช้างก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารก็จะมีเจ้าหน้าภาคพื้นดินมายืนรอตรวจพาสปอร์ตด้วย ใครถือพาสปอร์ตไทยผ่านได้เลย ใครถือพาสปอร์ตนอกต้องเอาตั๋วเครื่องบินที่มีเลขที่นั่ง + พาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยนะ .. กลัวผู้โดยหาย !!
(… ด้วยความที่เป็นเครื่องแวะพัก แล้วต้องมีบินต่อไปโคลอมโบเลย ช่วงระยะเวลาพักเครื่องแค่ 1 ชม. เจ้าหน้าที่เลยไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารที่รอต่อเครื่องลงไปเดินเล่น ให้นอนรอแค่ในเครื่องอย่างเดียว เลยต้องตรวจเข้มก่อนเข้าอาคารเลย !!)
ออกมาได้ก็มายืนรอกระเป๋าอยู่ตั้งนาน อาจเป็นเพราะคราวนี้เครื่องได้เกทจอดใกล้มั๊ง จอดในสุดแถวๆปลายทางที่เดินออกมาแล้วเจอตรวจคนเข้าเมืองเลย เดินออกมาก็สายพานรับกระเป๋า ใกล้มากๆ ปกติเดินเป็นกิโลเลย .. วันนี้ใกล้ เลยมายืนรอกระเป๋านานเลย เหอเหอ
เดี๋ยวคราวหน้าเจอกัน จะมารีวิวที่เที่ยวที่ไหนติดตามกันด้วยเนอะ ^^