ความลงตัวของห้องอาหารชั้นนำใจกลางกรุงเทพ ในค่ำคืนที่จะสุดแสนโรแมนติก ภายใต้วิว การบริการ และอาหารที่เสิร์ฟมาแบบสุดแสนประทับใจ กับห้องอาหารญี่ปุ่น ฟิวชั่น ชื่อดังจาก Los Angeles ที่วันนี้มีสาขามากมายไปทั่วโลก “KOI Restaurant”
เมื่อก้าวขึ้นลิฟท์มาถึงชั้น 39 ของอาคารสาธรสแควร์ ความตื่นตาตื่นใจกับวิวที่เห็นตรงหน้า ถือเป็นการเปิดตัวต้อนรับได้อย่างประทับใจ
เริ่มต้นที่จุดสตาร์ทของค่ำคืนนี้ ด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทลสีสวยสดใส “Midnight Trian to Sathorn” ว่าแล้วก็ยกขึ้นจิบเบาๆ พร้อมทอดสายตาออกไปมองดูรถไฟฟ้าที่กำลังพุ่งทยานไปตามรางรถไฟ สะท้อนกับแสงพระอาทิตย์สีแดงส้มที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า ช่างเป็นประสบการณ์ที่สวยงามและน่าจดจำ
ภายในร้านอาหารถูกตกแต่งตามหลักฮวงจุ้ย ผสมผสานกลิ่นอายจากตะวันออก ใช้เฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ตัดกับแสงจากกระจกบานใหญ่ ที่รับแสงพระอาทิตย์ตกในยามเย็น สะท้อนให้เห็นถึงรายละเอียดในร้านที่น่าค้นหาก่อนพลบค่ำ
ในส่วนของเมนูอาหารที่ร้าน จะใช้ส่วนผสมของวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วโลก นำมาผสมผสานและปรุงใหม่ในสไตล์ อาหารญี่ปุ่นผสมผสนานให้เข้ากับกลิ่นอายความทันสมัยจากแคลิฟอร์เนียร์ ทำให้รสชาติและหน้าตาอาหารทุกจานที่มาเสิร์ฟล้วนน่าติดตาม ดูเซ็กซี่ และน่าลิ้มลอง
เมนูแนะนำที่ห้ามพลาด เริ่มจากอาหารทานเล่น ที่เสิร์ฟมาด้วยจานยาว กับเมนู “KOI Crispy Rice” ข้าวปั้นทอดกรอบ ท็อปด้วยทูน่า ไข่กุ้ง ที่คลุกเคล้าให้เข้ากับซอสสไปร์ซี่มาโย
จานถัดมา เป็นเมนูกุ้ง ที่อร่อยมากๆ อยากแนะนำ “Creamy White Shrimp Tempura” กุ้งเทมปุระเนื้อเด้ง ที่ทอดมาด้วยแป้งบางกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมผักสดที่ผ่านการคลุกเคล้าด้วยซอสมายองเนสงา ให้รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน กรอบ อร่อยอย่างลงตัว
ถัดมาสายปลาแซลม่อนต้องห้ามพลาด กับ “Salmon Carpaccio” ให้ความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดปนความหอมเตะจมูกจากส้มยูซุ แต่แอบซ่อนรสชาติหวานจากเนื้อปลาแซลม่อน รวมในคำเดียวด้วยรสชาติที่ลงตัว จานนี้ทานเล่นเพลินมากจริงๆ
สำหรับคนที่ชอบทานปลาเบาๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ เค้ลาไปกับความสนุกในการสนทนาบนโต๊ะ ทางร้านแนะนำเป็น “Miso Bronzed Black Cod” กับปลาค๊อดสด ที่ฟินเล่มาเป็นชิ้นใหญ่ หนา อวบ นำไปอบและราดซอสมิโซะ ให้รสชาติหวานซอส หวานปลา ทานกับ Ume Cocktail เข้ากันดีเลยทีเดียว
อีกจานที่อยากนำเสนอมาก เพราะทำเราตกหลุมรักประหนึ่งพระเอกสุดหล่อกำลังเดินเข้าฉาก แล้วค่อยๆหันหน้ามายิ้มให้ช้าๆ ด้วยริมฝีปากแดงระเรื่อ จนแทบจะทำให้ใจละลายเมื่อยามเห็น .. ฟิลลิ่งแบบนั้นเลยล่ะ กับเมนูนี้ “Peppercorn Australian Wagyu Fillet Mignon Toban Yaki” จานนี้บอกเลยว่าว๊าวมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา และกลิ่นที่หอมโชย .. ณ โมเม้นต์ตอนนั้นอยากให้ทุกคนลองนึกภาพตามแบบสโลโมชั่นเหมือนอย่างที่เรารู้สึก .. กลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิลอ่อนๆโชยมา พร้อมเสียงฉ่าในจานร้อน เรียกเราให้ค่อยๆหันไปหาจานในมือพนักงานที่กำลังจะลงเสิร์ฟ พอยิ่งเห็นภาพชัดในจาน ภาพยิ่งดูช้าลง เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ เนื้อวากิวฟิเลมิยอง สีแดง วางเรียงสวยมาในจานเซรามิก ที่ด้านบนเนื้อวากิวท็อปด้วยมันฝรั่งบดที่คลุกเค้ามากับน้ำมันทรัฟเฟิลแบบยั่วยวน
ถัดมาที่เมนูของหวาน .. เชฟนำเสนอของหวานที่ใครมาก็ไม่ควรพลาด กับ “Gianduja Lava Soufflé” หรือเรียกง่ายๆว่า Chocolate Soufflé ซูเฟล่นุ่มฟูแต่ไร้แป้ง อบสดใหม่ เสิร์ฟมาอุ่นๆพร้อมเหล่าสหายเบอรี่และไอศกรีมไวท์ช็อคโกแลต (ช่วยปลอบประโลมให้คนที่กำลังพยายามลดความอ้วน สามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รู้สึกผิด)
นอกจากนี้ยังมี “Millefeuille Café et Chocolate” และ “Eve Mont Blanc Maiden” เสิร์ฟมาให้เลือกชิมกับความอร่อยที่ขึ้นชื่อ กับเมนูของหวานของ KOI Restaurant ที่บอกได้คำเดียวว่าถ้าไม่ลองสั่งมาทาน ถือว่าพลาดมาก เพราะอร่อยทุกเมนูจริงๆ
และสุดท้าย .. ประสบการณ์ทั้งหมดทั้งมวลในค่ำคืนแห่งความทรงจำดีๆในวันนี้ บอกได้คำเดียวว่าประทับใจมาก อร่อยทุกเมนู มีเสน่ห์ และแฝงไปด้วยความใส่ใจในทุกการบริการ แนะนำจากใจจริง ควรต้องมาสัมผัสประสบการณ์ดีแบบนี้ด้วยตัวเอง
—————————–
KOI Restaurant
อาหารสาทรสแควร์ ชั้น 39 BTS ช่องนนทรีย์
Mon – Sat : 11.30 am. – 3.00 pm. / 6.00 pm. – 1.00 am.
Call 080-353-5197, 02-108-2005
FB : https://www.facebook.com/koirestaurantbkk/
#กินเที่ยวเปรี้ยวกับหมี #MemonJourney #KOI #KOIRestaurant #SathornSquare #Bangkok #KOIThailand
