เปิดประสบการณ์ร้านอาหารอินเดีย “INDUS” การันตีรางวัล Michelin Plate

วันนี้เรามีโอกาสได้ไปทานอาหารอินเดีย ที่ร้าน INDUS สุขุมวิท 26 ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การทานอาหารอินเดียร่วมสมัย ที่พร้อมเสิร์ฟมาในรูปแบบ Fine Dine โดยมีคุณสิธธัตถะ เซกาล เจ้าของร้านและผู้ก่อตั้งร้านอินดัส เล่าถึงความเป็นมาของร้านตั้งแต่แรกเริ่มจนวันนี้ รวมเวลากว่า 16 ปี และกวาดรางวัลต่างๆเรื่อยมาจนถึงรางวัลภูมิใจสูงสุด คือ  Michelin Plate ถึง 2 ปีซ้อน (ประจำปี 2019 และ ปี 2020)

Indus Indian Restaurant
Indus : ประตูทางเข้าหลักหน้าร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้านประดับด้วยภาพเขียนสมัยราชวงศ์โมกุล
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน
Indus : บรรยากาศภายในร้าน

โดยภายในร้าน ได้รับแรงบันดาลใจจากการตกแต่งมาจากราชวงศ์โมกุล มีการนำรูปภาพ ข้าวของเครื่องใช้ ถูกนำมาตกแต่งและประดับด้วยความหรูหรา แต่ยังคงให้ความรู้สึกโปร่ง นั่งสบาย และมีมุมส่วนตัวให้เลือกนั่งได้อย่างหลากหลาย ทั้งมุมโรแมนติก สำหรับใครที่มาเป็นคู่ และมุมเฮฮาปาร์ตี้สำหรับโต๊ะยาวสำหรับท่านที่มาเป็นกลุ่ม โดยสามารถเลือกนั่งได้ทั้งโซนภายในร้านและบรรยากาศแบบ Open Air ด้านนอก

Indus Menu Story

Indus ร้านอาหารอินเดียสุดหรู เสิร์ฟอาหารอินเดียที่ทานง่ายและมีเรื่องราวในแต่ละเมนูที่น่าสนใจ การันตีด้วยรางวัลต่างๆ อย่างมากมาย โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูมาจากสูตรอาหารแห่งราชวงศ์โมกุล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย

โดยร้าน Indus เลือกนำเสนอด้วยความโดดเด่นตามสูตรเฉพาะของเครื่องเทศและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มานำเสนอในแต่ละเมนูให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

เมื่อเข้าสู่ช่วงทานอาหาร เชฟก็ได้เริ่มแนะนำรายละเอียดของแต่ละเมนูให้เราได้รับรู้ถึงที่มาที่ไป ไปพร้อมๆกัน ทำให้ในขณะที่เราทานอาหารอยู่นั้น ได้เข้าใจเรื่องราวของแต่ละเมนูได้ดียิ่งขึ้น

Indus : Papdi chaat (delhi)
Indus : Papdi chaat (delhi)

เริ่มจากเมนู Papdi Chaat (delhi) ข้าวเกรียบทำจากแป้งถั่ว นำมาทอดจนกรอบ โรยด้วยถั่วชิคพี มันฝรั่ง โยเกิร์ต  ท็อปด้วยซอสมิ้นท์ และซอสมะขาม เมนูนี้ถือเป็นอาหารว่างที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะตามเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดีย

Indus : Keba-e-Malai – Tandoori Tiger Prawns – Tandoori Creamy Broccoli
Indus : Keba-e-Malai – Tandoori Tiger Prawns – Tandoori Creamy Broccoli

จานนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกันสามเมนูไฮไลท์ของที่ร้าน โดยเริ่มทานจากซ้ายไปขวา

Keba-e-Malai ไก่เนื้อนุ่ม ที่ร้านมีกรรมวิธีในการหมักด้วยสูตรเฉพาะ คือ โยเกิร์ต ครีมชีส กระวาน มะม่วงหิมพานต์บด และเครื่องเทศของอินเดีย ปรุงรสให้เข้าเนื้อแล้วนำมาย่างด้วยเตาทันดูร์จนสุกพร้อมเสิร์ฟ เนื้อไก่นุ่มอร่อยมาก .. ต้องห้ามหลาด!

Tandoori Tiger Prawns กุ้งกุลาดำย่างบนเตาทันดูร์ โดยที่ร้านจะนำกุ้งมาหมักกับน้ำมันมัสตาร์ด ใบฟีนกรีก และโยเกิร์ตก่อนนำไปย่างจนหอมพร้อมเสิร์ฟ

Tandoori Creamy Broccoli บล็อกโคลี่จากโครงการหลวงนำมาหมักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และครีมชีส ปรุงด้วยผงกระวาน แล้วนำมาย่างในเตาย่างทันดูร์ในแบบของอินเดีย

Indus : Raan Sikandari

Raan Sikandari เมนูขาแกะย่าง สูตรเฉพาะของร้านอินดัส โดยร้านจะเลือกใช้ขาแกะจากฟาร์มที่ซื้อเป็นประจำมากว่า 15 ปี โดยเมนูนี้เชฟยังเล่าว่าเป็นเมนูที่ทำยากมาก โดยจะใช้ส่วนน่องของแกะนำมาหมักถึง 12 ชั่วโมง และนำมาตุ๋นต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาย่างในไฟอ่อนจนสุก ซึ่งวิธีการทาน คือเราจะทานร่วมกับแป้งที่นำมาเสิร์ฟแล้วท็อปด้วยซอสโยเกิร์ตสูตรเฉพาะของทางร้าน จะพบว่าเมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว เพราะเนื้อแกะนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นสาปใดๆ และซอสโยเกิร์ตเย็นๆ ยังช่วยทำให้อถรรสในการทานเพิ่มขึ้นเป็นอีกหลายเท่าตัว

เมื่อเข้าสู่ Main Course ทางร้านจะเสิร์ฟมาให้เป็นแบบ Sharing Menu ประกอบไปด้วยแผ่นแป้ง แกง ซุป และข้าวหมกไก่จานโต ทานร่วมกันอร่อยล้ำเลยทีเดียว

Indus : Palak Paneer

Palak Paneer ผักโขมสับใส่ครีม ผัดร่วมกับคอทเทจชีส หั่นทรงสี่เหลี่ยมทานกับแป้งนานสูตรเฉพาะของร้านอินดัส

Indus : Khatte Baingan
Indus : Khatte Baingan

Khatte Baingan แกงกระหรี่ มะเขือม่วงเผา ปรุงด้วยหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ เครื่องเทศอินเดีย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวบาสมาติ ซึ่งหุงกับหญ้าฝรั่น ทานกับแป้งนาน

Indus : Murgh Dum Biryani
Indus : Murgh Dum Biryani

Murgh Dum Biryani เมนูข้าวหมกไก่ ซึ่งเป็นสูตรของทางภาคเหนือของอินเดีย จากลัคนาว (Lucknow) จะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอมจากดอกไม้มากกว่ากลิ่นเครื่องเทศ ข้าวนุ่ม ไก่อร่อยรสชาติละมุน

Indus : Main Course แบบ Sharing Menu

ร้าน Indus ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ซอย 26 มีพื้นที่รองรับลูกค้าทั้งแบบนั่งทานในร้านและแบบ Private Function ได้สูงสุดถึง 300 ที่ สามารถเดินทางมาที่ร้านได้อย่างสะดวก ด้วย BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ หรือใครที่ขับรถมาเอง ก็สามารถจอดรถได้อย่างสะดวกในบริเวณลานจอดรถหน้าร้านที่เตรียมพร้อมไว้ให้บริการ

Indus : Ayurvedic Chai

Ayurvedic Chai เมื่อทานอาหารจานหลักเสร็จเรียบร้อย เชฟจะเสิร์ฟน้ำชาร้อนซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยมาให้ดื่มหลังมื้ออาหาร

โดยในชาที่เสิร์ฟมาในกานี้ ล้วนอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ช่วยย่อยและช่วยให้สบายท้อง จากกานพลู ขิง ใบโหระพา กระวาน ยี่หร่า และน้ำผึ้งเล็กน้อย รสชาติเผ็ดร้อนซ่า อุ่น ทานสบาย

Indus : Gulab jamun flambé

Gulab jamun flambé  ขนมกุหลาบจามุน  ก่อนเสิร์ฟเชฟจะนำอุปกรณ์มาทอดโชว์ที่หน้าโต๊ะ เมนูนี้ทำมาจากนมเคี่ยวจนแห้งเคลือบด้วยน้ำเชื่อมผสมน้ำกุหลาบ แล้วจุดไฟด้วยวิสกี้ ให้เปลวไฟของวิสกี้ซึมเข้าสู่เนื้อในด้วยความหอมละมุน พร้อมตื่นตาตื่นใจในการทานของหวานให้ยิ่งมีอรรถรสมากขึ้น

Indus : Phirni

Phirni พุดดิ้งข้าว โรยด้วยหญ้าฝรั่นและกระวานเขียว ได้รสชาติและความหอมของกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ ทานแบบเย็นให้รสชาติละมุนปิดท้ายมื้อได้อย่างสวยงาม

พิเศษ สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารอินเดีย ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่มีให้เลือกหลากหลายโปรแกรมต้องห้ามพลาด!

ชุดอาหารกลางวันเสิร์ฟเฉพาะวันธรรมดา
ราคาเริ่มต้นที่ 450-750 บาท++ ต่อท่าน
Weekday Lunch Set
Prices from 450++ to 750++ Baht per person

ชุดอาหารกลางคืน
ราคาเริ่มต้นที่ 900-1,250 บาท++ ต่อท่าน
Dinner Set
Prices from 900++ to 1,250++ Baht per person

ชุดอาหารบรันซ์สำหรับวันเสาร์และอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น.
ราคาเริ่มต้นที่ 950 บาท++ ต่อท่าน / ส่วนลด 50% สำหรับน้องๆอายุ 5-12 ปี /และฟรี สำหรับหนูๆที่อายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา
Brunch Set Every Saturday & Sunday from 11:00-15:00
Price    950++ per person / 50% discount for kids of 5-12 years / Kids below 5 years eat for free

——————————-

——————————-

สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ^^
Open Hour 11:00 – 22:30
Reservation Call 086-339-8582 
LINE @indus
Website : http://www.indusbangkok.com/
Facebook : www.facebook.com/indusbkk/ 
Instagram : @indusbkk

Google Map Click -> https://goo.gl/maps/tvEhHCXSJCzXLqQdA

Message us